พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 5
21
อินทรีย์1 5
1. จักขุนทรีย์ (อินทรีย์คือตา)
2. โสตินทรีย์ (อินทรีย์คือหู)
3. ฆานินทรีย์ (อินทรีย์คือจมูก)
4. ชิวหินทรีย์ (อินทรีย์คือลิ้น)
5. กายินทรีย์ (อินทรีย์คือกาย)
22
อินทรีย์2 5 อีกนัยหนึ่ง
1. สุขินทรีย์ (อินทรีย์คือความสุขกาย)
2. ทุกขินทรีย์ (อินทรีย์คือความทุกข์กาย)
3. โสมนัสสินทรีย์ (อินทรีย์คือความสุขใจ)
4. โทมนัสสินทรีย์ (อินทรีย์คือความทุกข์ใจ)
5. อุเปกขินทรีย์ (อินทรีย์คืออุเบกขา)
23
อินทรีย์3 5 อีกนัยหนึ่ง
1. สัทธินทรีย์ (อินทรีย์คือศรัทธา)
2. วิริยินทรีย์ (อินทรีย์คือวิริยะ)
3. สตินทรีย์ (อินทรีย์คือสติ)
4. สมาธินทรีย์ (อินทรีย์คือสมาธิ)
5. ปัญญินทรีย์ (อินทรีย์คือปัญญา)
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 5
24
[321] ธาตุ1ที่สลัด2 5
1. เมื่อภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มนสิการกามทั้งหลาย3 จิตของเธอ
ย่อมไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ตั้งอยู่ ไม่น้อมไปในกามทั้งหลาย แต่
เมื่อเธอมนสิการเนกขัมมะ จิตของเธอจึงแล่นไป เลื่อมใส ตั้งอยู่
น้อมไปในเนกขัมมะ จิตนั้นของเธอชื่อว่าเป็นจิตดำเนินไปดีแล้ว
อบรมดีแล้ว ตั้งอยู่ดีแล้ว หลุดพ้นดีแล้ว พรากออกดีแล้วจากกาม
ทั้งหลาย เธอหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ4และความเร่าร้อนที่ก่อความ
คับแค้น5 ซึ่งเกิดขึ้นเพราะกามเป็นปัจจัย เธอย่อมไม่เสวยเวทนานั้น
นี้พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่าธาตุที่สลัดกามทั้งหลาย
2. เมื่อภิกษุมนสิการพยาบาท จิตของเธอย่อมไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส
ไม่ตั้งอยู่ ไม่น้อมไปในพยาบาท แต่เมื่อเธอมนสิการอพยาบาท จิต
ของเธอจึงแล่นไป เลื่อมใส ตั้งอยู่ น้อมไปในอพยาบาท จิตนั้นของเธอ
ชื่อว่าเป็นจิตดำเนินไปดีแล้ว อบรมดีแล้ว ตั้งอยู่ดีแล้ว หลุดพ้นดีแล้ว
พรากออกดีแล้วจากพยาบาท เธอหลุดพ้นแล้วจากอาสวะและความ
เร่าร้อนที่ก่อความคับแค้น ซึ่งเกิดขึ้นเพราะพยาบาทเป็นปัจจัย เธอ